GIGABYTE GA-X150M-PLUS WS (REV.1.0) เวิร์คสเตชันรุ่นเล็ก สเปคของคนทำงาน
อีกหนึ่งกระแสของการประกอบพีซีในเวลานี้นอกเหนือไปจากประกอบไปเพื่อการเล่นเกมแล้วก็คือการประกอบพีซีสำหรับการใช้งานในระดับมืออาชีพ เช่นสำหรับงานตกแต่งภาพ การตัดต่อวิดีโอ รวมไปถึงคอนเทนต์มัลติมีเดียอื่น ๆ ซึ่งความต้องการของมืออาชีพในงานเหล่านี้ สิ่งที่นอกเหนือไปจากเรื่องของประสิทธิภาพในการทำงานก็คือเรื่องของเสถียรภาพในการทำงาน ทำให้ผู้ผลิตเมนบอร์ดได้ให้ความสำคัญกับตลาดนี้มากขึ้น และทาง GIGABYTE ก็ได้ผลิตเมนบอร์ดสำหรับการใช้งานในลักษณะของเวิร์กสเตชันแต่มีราคาในระดับเดียวกันกับเมนบอร์ดสำหรับคอนซูเมอร์รวมไปถึงเมนบอร์ดสำหรับการเล่นเกมอยู่ด้วยกันหลายรุ่น
ส่วนใครที่กำลังมองหาเมนบอร์ดที่มีขนาดเล็กแต่รองรับงานในลักษณะเวิร์กสเตชันได้ก็ลองพิจารณาเมนบอร์ด GIGABYTE GA-X150M-PLUS WS ได้ครับ เมนบอร์ดรุ่นนี้ใช้แพลตฟอร์มแบบ MicroATX ที่มีขนาดเล็กกะทัดรัด แต่ก็รองรับซีพียู Skylake ของอินเทลได้หลายรุ่นไม่ว่าจะเป็นรุ่นเล็ก ๆ อย่าง Celeron และ Pentium หรือจะใช้ซีพียูในกลุ่มที่ให้ประสิทธิภาพสูงขึ้นมาอีกในกลุ่ม Core i3/i5/i7 รวมไปถึงซีพียูที่ให้เสถียรภาพสูงอย่าง Xeon E3 1200 Series ได้อีกด้วย ทางด้านหน่วยความจำนั้นก็จะมีสล๊อต DDR4 มาให้สองช่องสามารถติดตั้งหน่วยความจำ DDR4-2133MHz ได้สูงสุด 32GB ทำงานแบบ Dual-Channel แต่ว่าไม่รองรับหน่วยความจำ ECC เหมือนกับเมนบอร์ด WS รุ่นพี่ ที่เราเคยทดสอบไปก่อนหน้า แต่ว่าเราก็สามารถเลือกใช้หน่วยความจำ DDR4 คุณภาพสูงทดแทนได้ และการรองรับหน่วยความจำได้สูงสุดที่ 32GB ก็ถือว่ามากพอสมควรและรองรับงานต่าง ๆ ได้อย่างสบาย ๆ รวมถึงการตัดต่อวิดีโอด้วย
สำหรับเมนบอร์ดซ็อกเก็ต LGA 1151 ที่รองรับการทำงานของซีพียู Xeon นั้นจะใช้ชิปเซต C200 Series ซึ่งเป็นชิปเซตที่ออกแบบให้ใช้งานร่วมกับซีพียู Xeon โดยเฉพาะ แต่ก็สามารถใช้งานร่วมกับซีพียูในกลุ่ม Core i3/i5/i7 รวมถึง Celeron และ Pentium ที่ใช้สถาปัตยกรรม Skylake อย่างที่ได้กล่าวไปแล้ว ส่วนชิปเซตที่ใช้จริง ๆ บนเมนบอร์ดรุ่นนี้ก็คือ Intel C237 ดังนั้นเวลาเห็นชื่อรุ่นเมนบอร์ดว่าเป็น X150 ก็อย่าเพิ่งไปคิดว่าอินเทลออกชิปเซตใหม่มานะครับ ที่ไปที่มาของชื่อ X150 จริง ๆ แล้ว X ก็มาจากตัว Xeon ครับส่วนตัวเลขนั้นก็เป็นตัวที่บ่งบอกถึงระดับการใช้งานนั่นเอง
เมนบอร์ดรุ่นนี้มีช่องสำหรับติดตั้งไดร์ฟแบบ SATA 6.0Gb/s มาให้ด้วยกันถึง 6 ช่อง ก็ถือว่าพอดี ๆ ไม่มากไม่น้อยสำหรับเมนบอร์ดแบบ MicroATX โดยมากเมนบอร์ดรุ่นเล็ก ๆ อย่างนี้เราก็อาจจะใช้ SSD หนึ่งตัวกับ HDD หนึ่งตัว ก็เท่านั้น หรือบางคนอาจจะมีความต้องการพิเศษก็อาจจะมีพวกออปติคอลไดร์ฟอีกหนึ่งตัว รวมแล้วก็ยังเป็นแค่สามเท่านั้นเอง ยังมีช่องมากพอสำหรับทำ RAID ด้วยซ้ำไป
เนื่องจากเป็นเมนบอร์ดที่ออกแบบมาให้มีขนาดกะทัดรัดดังนั้นสล๊อตสำหรับติดตั้งการ์ดต่าง ๆ เพิ่มเติมจึงมามาให้ทั้งหมดเพียง 3 สล๊อตเท่านั้น โดยมี PCIe 3.0 x16 มาให้หนึ่งช่องสำหรับติดตั้งกราฟิกการ์ด และมี PCIe 3.0 x1 มาอีกสองช่องสำหรับติดตั้งการ์ดอื่น ๆ เพิ่มเติม จริง ๆ แล้วก็ถือว่าไม่มากไม่น้อยครับเป็นการให้มาแบบพอเพียงกับเมนบอร์ดรุ่นเล็ก
ถึงจะเป็นเมนบอร์ดสำหรับการทำงานแต่ทาง GIGABYTE ก็ยังอุตส่าห์แยกวงจรของชุดซาว์ดการ์ดให้แยกออกมาจากวงจรหลักของเมนบอร์ดให้ด้วย เท่ากับว่าเราจะได้ใช้เมนบอร์ดสำหรับการทำงานที่ให้เสียงดีไม่แพ้เมนบอร์ดในกลุ่มเกมมิ่งกันเลยทีเดียว
พอร์ตสำหรับเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ ทางด้านหลังของเมนบอร์ดอาจจะไม่ได้หนาแน่นเหมือนเมนบอร์ดอื่น ๆ เพราะว่าพอร์ตสำหรับต่อจอภาพหายไป แต่ว่าพอร์ตใช้งานอื่น ๆ ก็ยังมีมาให้อย่างครบครับไม่ว่าจะเป็นพอร์ต PS/2 ที่มีมาให้ถึงสองพอร์ตสำหรับเมาส์และคีย์บอร์ดโดยเฉพาะ มีพอร์ต USB 3.0 ถึง 4 ช่อง พอร์ต LAN พร้อมกับ USB 2.0 อีกสองช่อง และชุดคอนเน็คเตอร์สำหรับระบบเสียง
คุณสมบัติทางด้านเทคนิค
CPU |
(Please refer “CPU Support List” for more information.) |
Chipset |
|
Memory |
(Please refer “Memory Support List” for more information.) |
Audio |
|
LAN |
|
Expansion Slots |
|
Storage Interface | Chipset:
|
USB | Chipset:
|
Internal I/O Connectors |
|
Back Panel Connectors |
|
I/O Controller |
|
H/W Monitoring |
|
BIOS |
|
Unique Features |
|
Bundle Software |
|
Operating System |
|
Form Factor |
|
Remark |
|
* Advertised performance is based on maximum theoretical interface values from respective Chipset vendors or organization who defined the interface specification. Actual performance may vary by system configuration.
* All trademarks and logos are the properties of their respective holders.
* Due to standard PC architecture, a certain amount of memory is reserved for system usage and therefore the actual memory size is less than the stated amount.
อุปกรณ์ที่ใช้ในการทดสอบ
- CPU: Intel Core i5-6600K
- RAM: Apacer Blade DDR4-2133MHz (8GBx2) 16GB
- VGA: Sapphire Radeon R9 285 (2GB)
- SSD: Deva’s C120 (120GB)
- Monitor: Philips 277 E6 (27”, FHD)
- PSU: Thermaltake 650W
- OS: Windows 10 Pro (64bit)
ผลการทดสอบ
ผลการทดสอบในครั้งนี้เราไม่ได้นำไปเปรียบเทียบกับเมนบอร์ดรุ่นอื่น ๆ นะครับ เพราะว่าในการทดสอบครั้งนี้เรามีการเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์หลัก ๆ สองอย่างคือเปลี่ยนจากการใช้ฮาร์ดดิสก์มาเป็น SSD และเปลี่ยนจากหน่วยความจำ Kingston มาเป็น Apacer Blade DDR4 แทน ทำให้ผลการทดสอบไม่สามารถนำไปเปรียบเทียบกับเมนบอร์ดอื่น ๆ ที่เราทดสอบไปก่อนหน้าได้ เพราะคะแนนที่ได้จากการเปลี่ยนมาใช้ SSD นั้นสูงขึ้นมาก โดยเฉพาะโปรแกรมที่นำคะแนนด้านการอ่านเขียนข้อมูลมาคำนวณร่วมด้วย เช่น PCMark 7 ที่ให้คะแนนรวมพุ่งมาถึง 7 พันกว่า ซึ่งปกติก็จะได้อยู่ที่ 4 พันกว่า หรือ 5 พันกว่า แล้วแต่ฮาร์ดแวร์ที่ร่วมทดสอบ รวมไปถึงโปรแกรมอย่าง RealBench ก็ให้ผลดีขึ้นด้วยเช่นกันแม้ว่าโปรแกรมนี้จะไม่มีการนำคะแนนของไดร์ฟมาคิดแต่ด้วยความเร็วในการทำแคชข้อมูลในระหว่างการทดสอบก็ทำให้งานต่าง ๆ ที่ทดสอบเสร็จเร็วขึ้นด้วยนั่นเอง แต่ว่าถ้าเราลองตัดคะแนนส่วนไดร์ฟออกไปและลองประเมินดูก็จะเห็นได้ว่าเมนบอร์ดรุ่นนนี้ก็สามารถให้ประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีพอตัวแม้จะไม่ใช่เมนบอร์ดที่ใช้ชิปเซตแรง ๆ อย่าง Z170 ก็ตาม
ส่วนในเรื่องของเสถียรภาพทาง GIGABYTE ก็ยังคงทำได้ดีครับแม้ว่าเมนบอร์ดรุ่นนี้จะมีภาคจ่ายไฟเพียง 3 เฟส เท่านั้น แต่ก็สามารถรองซีพียูที่มีค่า TDP ระดับ 91 วัตต์ ได่ เช่น Core i7-6700K ส่วนซีพียู Xeon E3 1200 Series จะมีค่า TDP เพียง 80 วัตต์ ดังนั้นการเลือกใช้ซีพียูสำหรับเมนบอร์ดรุ่นนี้จึงไม่ต้องไปกังวลมากนัก และถ้าลองสังเกตดูก็จะพบว่าตรงภาคจ่ายไฟซีพียูจะเป็นคอนเน็คเตอร์แบบ 8 พิน ซึ่งตามปกติแล้วถ้าเป็นแบบบอร์ดแบบ MicroATX บางทีจะเป็นคอนเน็คเตอร์แบบ 4 พิน เท่านั้น เพราะไม่ได้เผื่อไว้สำหรับการรองรับซีพียูประสิทธิภาพสูงด้วยนั่นเอง
สรุป
โดยรวมแล้วเมนบอร์ด GIGABYTE GA-X150M-PLUS WS ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจอย่างมากเลยนะครับสำหรับผู้ที่ต้องการเมนบอร์ดที่ให้เสถียรภาพดีในระดับเซิร์ฟเวอร์ แต่ใช้งบประมาณไม่มากนัก อีกทั้งยังใช้งานร่วมกับฮาร์ดแวร์อื่น ๆ ในระดับคอนซูเมอร์ทั่วไปได้ เท่ากับว่าเรามีพื้นฐานของเสถียรภาพที่ดี แต่ก็สามารถต่อยอดการใช้งานด้วยอุปกรณ์ที่หาซื้อได้ง่ายและยืดหยุ่นซึ่งเหมาะสมกับการใช้งานในยุคปัจจุบันอย่างมาก